Pending Home Sales m/m คืออะไร?

Pending-Home-Sales

Pending Home Sales m/m หรือยอดขายบ้านที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เป็นดัชนีที่ช่วยสะท้อนภาพรวมการเคลื่อนไหวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลสำคัญต่อเศรษฐกิจ เมื่อพูดถึงการตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ หลายคนอาจมองเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ซึ่งดัชนีนี้จะบอกถึงจำนวนบ้านที่ได้รับการทำสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย นั่นหมายถึงการตกลงซื้อขายเสร็จสิ้นในระดับหนึ่ง แต่ยังเหลือขั้นตอนบางประการที่ต้องดำเนินการอยู่

ดัชนี Pending Home Sales คืออะไร?

ดัชนี Pending Home Sales เป็นข้อมูลที่จัดทำโดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (National Association of Realtors หรือ NAR) ในสหรัฐฯ โดยจะอัปเดตข้อมูลทุกเดือนเพื่อให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดบ้าน ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการทำสัญญาซื้อบ้านว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้มักสื่อถึงความเชื่อมั่นในตลาดและการจับจ่ายของผู้บริโภคที่อาจเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่การลดลงอาจสะท้อนถึงความลังเลในการใช้จ่ายและปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบ

กระบวนการคำนวณดัชนี

กระบวนการคำนวณ Pending Home Sales Index อาศัยข้อมูลจากสัญญาซื้อขายที่กำลังดำเนินการ โดย NAR จะคำนวณค่าเฉลี่ยของยอดขายบ้านในช่วงปี 2001 ให้เป็นฐานที่ 100 และใช้เป็นตัวเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของยอดขายบ้านในช่วงเวลาปัจจุบัน ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมของตลาดว่ากำลังมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน และผู้บริโภคสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดตามแนวโน้มการเติบโตของตลาดบ้านในแต่ละช่วงเวลา

ผลกระทบของ Pending Home Sales ต่อตลาดการเงิน

การเปลี่ยนแปลงของดัชนี Pending Home Sales สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินอย่างชัดเจน หากดัชนีสูงขึ้น นักลงทุนอาจมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเติบโต ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ในขณะเดียวกัน ตัวเลขที่ลดลงมักกระทบต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและอาจนำมาซึ่งการขายหุ้นหรือลดการลงทุน
Pending-Home-Sales-
ดัชนี Pending Home Sales ไม่ได้เป็นแค่เพียงข้อมูลตลาดบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่นักลงทุน นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ และผู้กำหนดนโยบายต่างใช้เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ข้อมูลนี้สามารถส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และ ราคาทองคำ ได้อย่างชัดเจน โดยมีรายละเอียดที่ควรเข้าใจเพิ่มเติมดังนี้:

ผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)

การเปลี่ยนแปลงของดัชนี Pending Home Sales มักมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการเติบโตในตลาดบ้านบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยและความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายที่สูงขึ้นสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่มั่นคง นอกจากนี้ เมื่อยอดขายบ้านเพิ่มขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจใช้เป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้ USD มีโอกาสแข็งค่าขึ้น เพราะการขึ้นดอกเบี้ยช่วยเพิ่มผลตอบแทนในการถือครองสกุลเงินดอลลาร์

ในทางตรงกันข้าม หากดัชนีออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ นักลงทุนอาจมองว่าเศรษฐกิจอาจเผชิญกับการชะลอตัว ทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่า เพราะนักลงทุนอาจลดความเชื่อมั่นในการถือครอง USD และหันไปหาสินทรัพย์อื่นที่มีความปลอดภัยสูงกว่า เช่น ทองคำหรือพันธบัตร

ผลกระทบต่อราคาทองคำ

ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ถือเป็นที่พึ่งในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากดัชนี Pending Home Sales ที่แข็งแกร่ง ราคาทองคำมักจะปรับตัวลดลง เนื่องจากการถือครองทองคำเป็นทางเลือกที่น่าสนใจน้อยกว่า USD ในช่วงที่เศรษฐกิจดูมั่นคงและมีโอกาสการเติบโตสูง

อย่างไรก็ตาม หากดัชนี Pending Home Sales ลดลงหรือต่ำกว่าคาดการณ์ ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมักหันมาซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทองคำจะเป็นตัวเลือกที่ดีในช่วงเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้บริโภคอาจลดการใช้จ่ายและความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ลดลง

ทำไมควรติดตาม Pending Home Sales?

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การติดตามดัชนี Pending Home Sales ช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มของตลาดได้ดีขึ้น ทั้งยังสามารถบอกใบ้ถึงภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดการเงินยังสามารถใช้ดัชนีนี้เป็นข้อมูลประกอบในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ

ดัชนี Pending Home Sales จึงเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านหรือนักลงทุนที่สนใจในเศรษฐกิจที่มีความสัมพันธ์กับอสังหาริมทรัพย์

บทส่งท้าย

ดัชนี Pending Home Sales m/m เป็นข้อมูลสำคัญที่สะท้อนสภาวะตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ โดยส่งผลกระทบต่อทั้งค่าเงินดอลลาร์ (USD) และราคาทองคำ เมื่อตัวเลขดัชนีออกมาสูงกว่าคาดการณ์ แสดงถึงเศรษฐกิจที่แข็งแรง ส่งผลให้ USD แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ราคาทองคำมักจะลดลงเพราะนักลงทุนให้ความสำคัญกับดอลลาร์มากกว่า ในทางกลับกัน หากดัชนีออกมาต่ำกว่าคาด นักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ USD อ่อนค่าลงและราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เพราะนักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำ

ในช่วงที่ตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินมีการประกาศตัวเลขข่าว ราคามักมีความผันผวนสูง หากไม่มีการควบคุมเงินทุนที่ดี อาจทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณเกิดความเสียหายได้ โบรกเกอร์ XM เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม มีโบนัสและโปรโมชั่นที่คุ้มค่า ช่วยให้การรักษาเงินทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเปิดบัญชี XM ผ่าน Besight ยังมาพร้อมกับโปรแกรมรีเบตเงินคืนอัตโนมัติทุกการเทรด และโปรแกรมสะสมแต้ม Loyalty ที่คุณสามารถแลกรับของรางวัลฟรี เช่น iPhone 16 Pro Max 256 GB ได้อย่างไม่จำกัด

Picture of [ADMIN] Sunny
[ADMIN] Sunny

เขียนและเรียบเรียงบทความโดย